ทำความรู้จักวิธีลดความอ้วน if กระแสใหม่ของคนอยากผอม

ทำความรู้จักวิธีลดความอ้วน if กระแสใหม่ของคนอยากผอม

ทำความรู้จักวิธีลดความอ้วน if กระแสใหม่ของคนอยากผอม

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ นอกเหนือไปจากการพยายามประชาสัมพันธ์ให้เห็นว่าอาหารเช้าสําคัญแค่ไหน หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินถึงวิธีลดน้ำหนัก ที่มีชื่อเรียกว่า  IF หรือ Intermittent Fasting  ซึ่งวิธีการลดน้ำหนักรูปแบบนี้ คือวิธีการที่ทำให้ร่างกาย ดึงไขมันที่ถูกสะสมอยู่ภายใน ออกมาใช้ เพื่อช่วยให้น้ำหนักตัวลดลง อีกทั้ง ยังทำให้ปริมาณของไขมันในร่างกายนั้น ลดลงได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่เป็นอันตรายหรือส่งผลกระทบต่อร่างกาย ในระยะยาว ทำให้ปัจจุบันแนวทางการลดน้ำหนักแบบ IF หรือ Intermittent Fasting  ถูกนำมาใช้สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก อย่างแพร่หลาย เพราะไม่เพียงแต่จะสามารถทำได้ ง่ายๆ เท่านั้น แต่หากสามารถทำได้อย่างถูกต้องตรงตามหลักของ IF หรือ Intermittent Fasting แล้วล่ะก็ ไม่ว่าใครก็สามารถลดน้ำหนักได้ อย่างยั่งยืนและปลอดภัย  ทั้งนี้ สำหรับใครที่อยากรู้ว่าใน 1 อาทิตย์สามารถลดน้ำหนักได้กี่กิโลกรัมแบบเต็มที่นั้น ก็แนะนำให้ลองนำรูปแบบ If ไปทำติดต่อกัน 1 สัปดาห์ ซึ่งการันตีได้เลยว่าผลลัพธ์จะต้องออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอน

 

 

สำหรับ ใครที่กำลังสนใจ แนวทางการทำยังไงให้ตัวบางลงหรือน้ำหนักลดลง ได้ง่ายๆในช่วงเวลาที่จำกัด ด้วยการทำ IF หรือ Intermittent Fasting  อยู่ล่ะก็ ในวันนี้เราจะพาผู้อ่านทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับรูปแบบการลดน้ำหนักสุดฮิตรูปแบบนี้ให้มากขึ้นกัน

วิธีลดความอ้วน if คืออะไร? มีรูปแบบ ไหนบ้าง

สำหรับวิธีการลดความอ้วนแบบ Intermittent Fasting หรือ IF นั้น ในความเป็นจริงแล้วก็คือ วิธีลดน้ำหนักด้วยการ ของการอดอาหารเป็นช่วง ๆ นนั่นเอง โดยจะแบ่งเป็น 2 ช่วงหลักๆใน 1 วัน ได้แก่

  • ช่วงเวลาในการอดอาหาร(Fasting)
  • ช่วงรับประทานอาหาร(Feeding)

โดยในการลดน้ำหนักด้วยวิธีการของ IF นั้น จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับ ประเภทหรือรูปแบบของอาหารที่บริโภคในแต่ละวัน แต่จะเป็นการมุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาของการรับประทานอาหารในแต่ละวันมากกว่า ซึ่งการทำเช่นนี้ จะทำให้ร่างกายได้รับอาหารและพลังงานน้อยลงในช่วงที่ต้องกินอาหาร และร่างกายจะมีการหลั่งสารฮอร์โมนของอินซูลินได้น้อยลง ในช่วงระหว่างที่ต้องอดอาหาร และจะส่งผลกระทบทำให้ร่างกายทำการปรับเปลี่ยน น้ำตาลที่สะสมอยู่ในเลือด ให้กลายไปเป็นไขมันได้น้อยลง จึงทำให้น้ำหนักและปริมาณของไขมันในร่างกายลดลงนั่นเอง นอกจากนี้ในช่วงที่ร่างกายสามารถหลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยลงนั้น ก็จะเกิดการผลิตสารที่มีชื่อเรียกว่าโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) และนอร์อีพิเนฟริน (Norepinephrine) ขึ้นมา ซึ่งสารฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้นี่เอง ที่จะช่วยเพิ่ม ระดับการเผาผลาญพลังงานและไขมันในร่างกายให้สูงมากขึ้น แต่จะไม่ส่งผลกระทบให้มวลกล้ามเนื้อ ลดน้อยลง เหมือนกับวิธีการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารเป็นระยะเวลานานๆ

 

 

วิธีลดความอ้วน if  มีรูปแบบ ไหนบ้าง ?

รูปแบบของการลดน้ำหนัก ด้วยวิธี IF นั้น แบ่งออกเป็น 5 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้

รูปแบบLean Gains 

แบ่งช่วงเวลาการกินอาหาร 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง

รูปแบบ Fast 5

แบ่งช่วงเวลาสำหรับการกินอาหารเพียง 5 ชั่วโมง แล้วอาหารอย่างต่อเนื่องอีก 19 ชั่วโมง

รูปแบบEat Stop Eat

ใช้วิธีการอดอาหารตลอด 24 ชั่วโมง จะทำเพียง 1-2 วันต่อสัปดาห์ เท่านั้น โดยวันที่เหลือสามารถกินอาหารได้ตามปกติเพียงแต่จะต้องคำนึงถึง หลักโภชนาการที่เพียงพอต่อร่างกายเป็นหลัก พยายามหลีกเลี่ยงอะไรที่กินแล้วอ้วนที่สุด และพยายามมุ่งเน้นไปที่วัตถุดิบที่มีคุณค่าทางโภชนาการแทน

รูปแบบ5:2

เป็นรูปแบบที่ใช้วิธีการ IF เพียง 2 วัน และอีก 5 วันกินอาหารตามปกติ โดยช่วง 2 วันที่ทำ IF นั้น จะสามารถทำติดกันหรือเว้นช่วงก็ได้ โดยจะไม่อดอาหารตลอดทั้งวัน แต่จะใช้วิธีการจำกัดปริมาณแคลอรี่ใน 1 วันแทน โดยผู้ชายจะอยู่ที่ 600 แคลอรี่ต่อวัน และผู้หญิงจะอยู่ที่ 500 แคลอรี่ต่อวัน

รูปแบบ Alternate Day Fasting 

แบ่งช่วงเวลาการอดอาหาร ใน 1 สัปดาห์ เป็นแบบวันเว้นวัน นั่นก็คือการกินอาหาร 1 วัน และอดอาหาร 1 วัน แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงของวันที่อดอาหารนั้น สามารถใช้วิธีการกินอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่ต่ำได้ โดยจะมีการจำกัดปริมาณแคลอรี่ต่อวันเหมือนกับรูปแบบ 5:2  นั่นเอง

 

 

ทำความรู้จักวิธีลดความอ้วน if กระแสใหม่ของคนอยากผอม

ความรู้รอบยิม

ฟิสเนสบอดี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *