แนวทางปฏิบัติสำหรับ การลดน้ำหนัก ที่เหมาะสมและปลอดภัย
ความอ้วนนับเป็นอีกหนึ่งปัญหาทางสุขภาพที่พบได้มากในคนไทย และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี ปัญหาทางด้านสุขภาพเรื่องความอ้วนหรือน้ำหนักเกินนี้ สามารถพบได้ กับกลุ่มคน ทุกเพศและทุกช่วงวัย อีกทั้งในทางการแพทย์นั้น ปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวที่มากเกินความพอดีของร่างกายหรือความอ้วน ยังสามารถส่งผลกระทบ ต่อการเป็นโรคร้ายแรงอื่นๆ ได้อีกมากมาย ทั้งนี้หากมีการศึกษาข้อมูลถึงสาเหตุหรือปัจจัยของการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ, เบาหวาน, ความดัน, เส้นเลือดอุดตันในสมอง ฯลฯ ก็จะพบว่าหนึ่งในสาเหตุหลักๆของโรคเหล่านั้น มักมีเรื่องความอ้วนหรือน้ำหนักตัวที่เกินพอดีรวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวหรือความอ้วนจะส่งผลกระทบให้เกิดโรคต่าง ๆ ในภายหลังนั้น ปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวหรือความอ้วนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็สามารถสร้าง Side effect โดยตรง ให้เกิดความยากลำบากในการใช้ชีวิตได้อย่างไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งระบบการหายใจที่ทำงานหนักขึ้นและมีความแปรปรวน, ความไม่คล่องหรือสบายตัวในการทำกิจวัตรประจำวัน, การสร้างแรงกดทับเมื่อนั่งหรือนอน, อาการปวดขาจากการเดินที่ต้องรองรับน้ำหนักมากเกินพอดี,
รวมไปถึงเกิดความไม่มั่นใจในรูปร่างของตนเองเมื่อต้องอยู่ในที่สารธารณะ อีกด้วย ซึ่งสำหรับปัญหาเหล่านี้ แพทย์ได้ให้คำแนะนำถึงวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด นั่นก็คือหากต้นเหตุของปัญหาเกิดจากน้ำหนักตัวที่เกินความพอดีหรือความอ้วน การแก้ไขปัญหาจึงเป็นการลดน้ำหนักและควบคุมให้เกิดความสมดุลตามเกณฑ์ที่เหมาะสมกับร่างกาย ทั้งนี้ หากสามารถทำจนสำเร็จได้ ปัญหาต่าง ๆ ในเรื่องที่พบก็จะหมดไป อีกทั้งยังได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมา นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการดำเนินชีวิตประจำวันที่จะสามารถประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุข ไม่มีปัญหาเรื่องรูปร่างมาคอยเป็นอุปสรรคอีกต่อไป
ทุกวันนี้มีแนวทางและวิธีปฏิบัติสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนออกมาให้ได้เลือกทำตามเป็นจำนวนมาก แต่ถึงอย่างไรการเลือกใช้วิธีการหรือแนวทางเหล่านี้ ก็ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับกับปัจจัยและข้อจำกัดทางด้านต่าง ๆ ที่มีในตัวผู้ปฏิบัติด้วย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสุขภาพ, ด้านขนาดร่างกาย, ด้านปริมาณน้ำหนัก, ด้านโรคประจำตัวที่เป็นรวมไปถึงประวัติการแพ้อาหารจำพวกที่ใช้ในการลดน้ำหนักอีกด้วย ทั้งนี้ผู้ปฏิบัติควรเลือกให้ดีและศึกษาข้อมูลก่อนเริ่ม ลงมือทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้ได้วิธีการที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด อีกทั้งยังเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและปลอดภัยต่อตัวผู้ปฏิบัติเองอีกด้วย และถึงแม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยในแนวทางปฏิบัติสำหรับการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนอยู่มากมาย แต่อย่างไรก็ตามหากนำวิธีการทั้งหมดมารวมกัน ก็จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นหลักใน แนวทางปฏิบัติสำหรับ การลดน้ำหนักที่เหมาะสม ได้ดังต่อไปนี้
- การออกกำลังกาย การลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายนั้น ปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย และถือเป็นตัวเลือกลำดับเริ่มต้นๆ สำหรับผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักเกินหรือต้องการลดความอ้วน ก็มักที่จะเลือกวิธีนี้ เนื่องจาก ไม่มีผลข้างเคียง และยังเป็นการเสริมสร้างร่างกายให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นอีกด้วย การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักนั้นเป็น การสร้างระบบการทำงานของกล้ามเนื้อให้มีความเคลื่อนไหว จะเป็นการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้แก่ร่างกาย และลดไขมันที่มีอยู่ลง รวมไปถึงกล้ามเนื้อของหัวใจที่มีการทำงานได้ดีก็จะช่วยในระบบการสูบฉีดเลือด ที่ส่งไปเลี้ยงยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ส่งผลให้ระบบการทำงานต่างๆภายในร่างกายมีกระบวนการที่ดีขึ้น อีกทั้งการออกกำลังกายนั้น ยังช่วย เผาผลาญน้ำตาลและไขมันส่วนเกิน ในร่างกายออกไปอีด้วย โดยในการออกกำลังกายนั้น มีมากมายหลายแบบ ทั้งการคาร์ดิโอในฟิตเนสด้วยอุปกรณ์ต่างๆ, การเล่นกีฬาทั้งในร่มและกลางแจ้งทุกชนิด, รวมไปถึงการเดินและการแกว่งแขน หากทำเป็นประจำในปริมาณและเวลาที่เหมาะสม ก็นับเป็นการออกกำลังกายเช่นกัน อย่างไรก็ตามในส่วนของระยะเวลาหรือจำนวนวันต่อสัปดาห์ที่ควรออกกำลังกายนั้น ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและข้อจำกัดต่างๆ โดยแพทย์ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก อย่างน้อยควรออกครั้งละไม่เกินหนึ่งชั่วโมงครึ่ง และทำเป็นประจำประมาณ 3 – 5 วันในหนึ่งสัปดาห์ ในกรณีผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนมาก ๆ นั้น ไม่ควรออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬาหนักๆ หรือการวิ่ง เพราะจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับร่างกายในส่วนล่าง และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะข้อเข่าเสื่อมและการบาดเจ็บอื่นๆทางร่างกายอีกด้วย
- การควบคุมอาหาร ในส่วนของวิธีนี้นั้นจัดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี กับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักโดยสามารถทำได้จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหารที่ต้องคำนึงถึงหลักโภชนาการสารอาหารที่จำเป็นในแต่ละวันรวมไปถึงหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้น้ำตาลหรือมีไขมันสูง สำหรับการลดน้ำหนักด้วยวิธีควบคุมอาหารนั้น คือการคุมปริมาณและสารอาหารที่พอดีใน แต่ละวัน ทั้งนี้ไม่ควรอดอาหารไปเลย เพราะการอดอาหารนั้นส่งผลร้ายต่อสุขภาพภายในร่างกาย อย่างมาก นอกจากนี้หากลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารหลังได้น้ำหนักที่พอใจแล้วกลับมากินตามปกติ มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดโยโย่เอฟเฟค การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักนั้น ควรคำนึงถึงการรับประทานอาหารที่จะช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดให้คงที่ เพราะหากยังรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันมาก ตามปกติก็อาจทำให้การควบคุมอาหารไม่ได้ผล นอกจากนี้การลดน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหารนั้นควรเพิ่มปริมาณมื้ออาหารในแต่ละวันให้มากขึ้น โดยแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ ประมาณ 4-5 มื้อต่อวัน เพื่อกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญภายในร่างกายให้ทำงาน ในส่วนของน้ำดื่มนั้น ถูกยืนจากจากแพทย์แล้วว่าน้ำเปล่าช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามวิธีการลดน้ำหนักแบบที่ 2 นี้หากสามารถทำร่วมกับการออกกำลังกายแบบที่ 1 ได้ ก็จะเห็นผลอย่างชัดเจนและปลอดภัยโดยใช้เวลาไม่นาน นับว่าเป็นการรวมกันของสองวิธีการที่ให้ผลลัพธ์ได้อย่างดีที่สุด
- วิธีทางการแพทย์ ในปัจจุบันมีนวัตกรรมทางการแพทย์มากมายที่เพิ่มเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือประสบปัญหาความอ้วนและต้องการเห็นผลอย่างรวดเร็ว ก็สามารถใช้วิธีการทางการแพทย์ได้ อย่างไรก็ดีก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้วิธีนี้ควรมีการปรึกษาแพทย์ ก่อนที่จะเริ่มทำเพื่อประเมินหาความเสี่ยงหรือผลกระทบต่างๆ อีกทั้งในระหว่างกระบวนการที่ทำ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตลอดเวลา ในส่วนของวิธีการนั้น ก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยา ที่สั่งจ่ายโดยแพทย์, การใช้เครื่องมือสลายไขมัน, การดูดไขมันออกมาจากร่างกาย, การผ่าตัดเอาบริเวณส่วนเกินในร่างกายออก, รวมไปถึง การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารเพื่อให้สามารถรับประทานอาหารได้น้อยลง สามารถทำได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้มีความเสี่ยงสูงและอัตราย เพราะถึงแม้จะได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ก็อาจเกิดความเสี่ยงอื่นๆกับร่างกายในระหว่างการทำหัตถการได้ อีกทั้งวิธีการนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงมากสำหรับคนทำงานทั่วไป
จะเห็นได้ว่า 3 ประเด็นหลักในวิธีการลดน้ำหนักนี้ ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปทั้งนี้ผู้ที่จะลดน้ำหนักควรเลือกแนวทางให้เหมาะสมกับตนเองโดยคำนึงถึงความเหมาะสมและข้อจำกัดต่างๆ ของร่างกายตนเอง อีกทั้งยังไม่ควรทำสิ่งใดแบบที่หักโหมเกินไป เพราะจากที่จะได้ผลดีอาจกลายเป็นผลเสียร้ายแรงต่อร่างกายแทน ทั้งนี้ควรหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาจุดแนวทางปฏิบัติที่พอดีกับร่างกายของแต่ละคน สำหรับกระบวนการลดน้ำหนักนั้น ไม่ควรใจร้อนหักโหมเพื่อต้องการผลลัพธ์ออกมาไวๆ ทั้งนี้ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อความปลอดภัยในร่างกายของผู้ปฏิบัติเอง อีกทั้งยังต้องมีจิตใจที่มุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้กลางครัน การลดน้ำหนักจึงจะออกมาสำเร็จและเห็นผลได้ในที่สุดอย่างที่ต่องการ